กาแฟในออสเตรเลีย วิถีชีวิตแห่งออสซี่
“สำหรับผมเสน่ห์ของกาแฟไม่ได้อยู่ที่ความขมเพียงอย่างเดียว ยังมีความหวาน ความนุ่ม ความเปรี้ยว ความมัน และความเค็มอยู่ด้วยกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ภูมิประเทศ และภูมิอากาศ อย่างทวีปแอฟริกาคาแรกเตอร์ของเมล็ดกาแฟจะมีความเปรี้ยว ความฟรุตตี้ของผลไม้ค่อนข้างเยอะ มีความมันและขมน้อย แต่ถ้าเป็นอเมริกาใต้ อย่างบราซิลจะมีความหวาน และความมันเยอะกว่า ได้กลิ่นถั่ว ความเป็นนัตตี้ค่อนข้างเยอะ และถ้าเป็นประเทศแอฟริกาอย่างเอธิโอเปียจะเป็นกลิ่นของผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ซึ่งชาวออสเตรเลียจะนำเข้ากาแฟชั้นดีจากทั่วโลก จากนั้นก็นำมาเบลนด์กันจนได้คาแรกเตอร์ใหม่ของตัวเองเป็นการผสมผสานเมล็ดกาแฟจากโลกเก่าและโลกใหม่ที่ลงตัวที่สุด”
คำบอกเล่าถึงสิ่งที่พิเศษเฉพาะตัวของกาแฟออสเตรเลียจาก ฉัฏฐ์ ธนพลอยพงศ์ หนุ่มอารมณ์ดีเจ้าของร้านบลูแทมป์ คาเฟ่ (Bluetamp Cafe) ค่าเฟ่ที่เน้นเสิร์ฟกาแฟสไตล์ออสเตรเลียและเสิร์ฟกาแฟเฮาส์เบลนด์จากหลายประเทศ อาทิ กาแฟเอธิโอเปีย อินโดนีเซีย และบราซิล ที่นำจุดเด่นของกาแฟต่างๆ ทั่วโลกมาเบลนด์ให้มีรสชาติเฉพาะตัว ผู้มีประสบการณ์จากการเป็นเชฟอยู่ที่ร้าน Bluestone ประเทศออสเตรเลียถึง 7 ปี และยังเคยได้มีโอกาสเรียนรู้การชงกาแฟที่ร้าน Campos เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย จนเกิดความหลงใหลในตัวแบรนด์เป็นพิเศษ จึงนำมาใช้ตั้งชื่อร้านนี้
“กาแฟที่ออสเตรเลียส่วนใหญ่จะสั่งเข้ามา เพราะกาแฟบ้านเขาจะปลูกได้น้อยและคุณภาพไม่ดีเท่ากับประเทศบราซิล หรือเอธิโอเปีย ด้วยเหตุนี้เขาจึงโฟกัสไปที่การคั่วกาแฟและมิกซ์กาแฟมากกว่า ทำให้ได้รสชาติที่ดีและมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง และด้วยเหตุที่ว่าบ้านเขามีค่าครองชีพที่สูงกว่าเรา ค่าจ้างสูงกว่า เวลาจะกินอะไรเขาก็จะเลือกแต่ของดีๆ จะเลือกใช้เมล็ดกาแฟที่เป็นอราบิกาแท้ๆ ขณะที่บ้านเราเป็นพันธุ์โรบัสต้า ซึ่งอราบิกาจะมีกาเฟอีนน้อยกว่าพันธุ์โรบัสต้า 4-5 เท่า จะว่าไปแล้วชีวิตของออสซี่จะขาดกาแฟไม่ได้เลย ต้องดื่ม 2-4 แก้ว/วัน ยิ่งดื่มยิ่งผ่อนคลาย มันเป็นวิถีชีวิตของบ้านเขาไปแล้ว ไปทุกซอกทุกมุมก็จะเจอแต่ร้านกาแฟ ขณะที่บ้านเราไปที่ไหนก็เจอแต่เซเว่น บ้านเขามีร้านกาแฟมากกว่าร้านเซเว่นในบ้านเรา 4-5 เท่า ตื่นเช้ามาเขาก็จะดื่มกาแฟกับแซนด์วิชขนมปัง และเริ่มตั้งแต่ไฮสกูลก็เริ่มดื่มกาแฟกันแล้วครับ”
หนุ่มฉัฏฐ์ ยังกล่าวย้ำอีกว่า นับตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา ออสเตรเลียถือได้ว่าเป็นมหาอำนาจแห่งโลกกาแฟ ทั้งบาริสตาลาเต้อาร์ต และกาแฟดีฟ ถ้าเริ่มต้นที่ออสเตรเลียจะติดท็อปไฟว์มาโดยตลอด และคนที่ได้อันดับหนึ่งของโลกก็เริ่มต้นที่ออสเตรเลียแทบทั้งนั้น
วัฒนธรรมการดื่มกาแฟของออสเตรเลียได้รับอิทธิพลส่วนหนึ่งจากการตกเป็นประเทศอาณานิคมของประเทศอังกฤษในช่วงปี 1700-1800 นำมาสู่การเข้ามาของนักสำรวจจากทวีปยุโรปและการอพยพเข้ามาของประชากรจากอิตาลีและกรีซเข้ามาตั้งรกราก ทำให้มีการรับเอาวัฒนธรรมและรูปแบบของการดื่มกาแฟมาปรับเปลี่ยนให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากขึ้นอย่างเช่น ชื่อเรียกของกาแฟที่คนไทยหลายคนอาจจะไม่คุ้นหู เช่น Long Black หรือที่คนไทยเรียกว่า Americano หรือ Flat White ซึ่งเป็นกาแฟที่คล้ายๆ กับ ลาเต้ แต่มีปริมาณของนมที่เยอะและฟองนมที่น้อยกว่า โดยกาแฟตัวนี้มีต้นกำเนิดและนิยมดื่มกันในประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์
จุดเด่นอีกประการร้านกาแฟในออสเตรเลียจะเสิร์ฟในแก้ว Duralex Picardie ซึ่งมีลักษณะพิเศษตรงที่จะมีปากกว้าง บาง และมีก้นเล็กกว่าแก้วกาแฟช็อตในบ้านเรา ทำให้กาแฟจะกระจายตัวสัมผัสรสชาติของกาแฟได้กำลังดี แล้วโชว์ชั้นให้เห็นเลเยอร์ข้างในได้อย่างชัดเจน โดยที่ร้านบลูแทมป์ คาเฟ่ ก็ใช้แก้วนี้เสิร์ฟ เพื่อเพิ่มอรรถรสแห่งการดื่มกาแฟตามตำรับของออสเตรเลียอย่างแท้จริง
เริ่มต้นสัมผัสความเป็นออสเตรเลียผ่านแก้วนี้กันครับ Shot Black กาแฟดำเรียกความสดชื่นที่คนอิตาเลียนเรียกว่าเอสเปรสโซ่ แต่คนออสเตรเลียเรียกว่า Shot Black กาแฟเข้มข้นสกัดเป็นช็อต 40 มล.ตัวเบสของเอสเปรสโซ่ที่เข้มข้นมาก เฟลเวอร์ชัดเจน อยากตื่นอยากสดชื่นต้องแก้วนี้เลย
ต่อด้วย Piccolo Latte คำว่า Piccolo ในภาษาอิตาเลียนแปลว่า “เล็ก” ส่วน Latte แปลว่า “นม” รวมกันก็เป็นกาแฟนมแก้วเล็ก เมนูนี้มีจุดเริ่มต้นอยู่ที่เมืองซิดนีย์ ที่เป็นเมืองเร่งรีบ เป็นเมืองท่า คนก็จะชอบดื่มกาแฟนมตอนเช้า เกิดจากโรงคั่วหนึ่งที่เขาคั่วเมล็ดกาแฟ และเทสต์กาแฟนมทั้งวันดื่มลาเต้จนรู้สึกว่าเปลืองนมและกินนมเยอะๆ ก็รู้สึกอืด เขาก็เลยเริ่มต้นใช้ช็อตกาแฟเท่าเดิมแล้วลดนมจากลาเต้ทั่วไปครึ่งหนึ่งเลยเกิดเป็นเมนูใหม่นี้ขึ้นมา รสชาตินวลนุ่ม แต่ไม่ลืมความเข้มข้นไปเสียทีเดียว และเป็นยอดฮิตของร้านบลูแทมป์ คาเฟ่ เฟลเวอร์ของกาแฟชัดเจน ซึ่งสามารถเลือกเมล็ดกาแฟก็จะให้รสชาติที่แตกต่างกันออกไปได้ ซึ่งทางร้านจะมีให้เลือกอยู่หลายประเทศ รวมถึงเมล็ดกาแฟจาก จ.น่าน ของไทย
ตามมาด้วย Flat White กาแฟนมฟองบางๆ รสชาติของกาแฟที่ไม่นุ่มเท่ากับลาเต้ ซึ่งได้รับความนิยมอยู่ 3 ประเทศ คือ อังกฤษ ออสเตรเลีย แล้วก็นิวซีแลนด์ เริ่มต้นมาจากคนอังกฤษที่ชอบดื่มชา แต่ของออสเตรเลียจะต่างออกไปนิดหนึงคือ คือจะช็อตเอสเปรสโซ่ 40 มล. นมสตรีมประมาณ 160 มล. มีไมโครโฟมบางๆ คลุมอยู่ปากแก้ว ให้ความละมุนปากนิดหน่อย นิยมดื่มกันตอนบ่ายๆ เพราะจะอยู่ท้อง คนสูงอายุจะชอบแก้วนี้
แก้วนี้ก็ห้ามพลาด Long Back คอนเซ็ปต์คือคล้ายกับอเมริกาโน่ แต่อเมริกาโน่เป็นของคนอเมริกัน ชาวออสซี่ก็อยากจะมีของตัวเองบ้างก็เลยเกิดแก้วนี้คือมา ก็คือการลากยาว อเมริกาโน่จะอย่างไรก็ได้ จะเทน้ำร้อนก่อน ใส่กาแฟ แต่คนออสเตรเลียจะพิถีพิถันกว่า โดยต้องเริ่มกดน้ำร้อนก่อน 160 มล. ตามด้วยดับเบิ้ลลิชเซตโต้ จะหอมละมุนได้รสชาติของกาแฟไปเต็มๆ ไม่มีนมมาเบรกดีต่อสุขภาพ ไม่อ้วน เหมาะกับคนแพ้นม สามารถเลือกเมล็ดกาแฟได้เหมือนกับ Piccolo Latte
ตบท้ายด้วย ลาเต้ กาแฟเย็นๆ รสนุ่มๆ ได้รสชาติกาแฟกำลังดี ส่วนใหญ่วัยรุ่น และผู้หญิงจะชอบดื่มเป็นการผสมผสานระหว่างออสเตรเลีย และความเป็นไทยที่นิยมดื่มกาแฟแบบเย็นๆ เริ่มด้วยกาแฟเอสเปรสโซ่ 30 มล. นมสตรีม 150 มล. หลังจากนั้นก็ใส่โฟมด้านบน หรือฟองนมด้านบน 20 มล. ก็เป็นอันเรียบร้อยแล้ว