10 ลำดับประเทศที่ผลิตและส่งออกกาแฟมากที่สุดในโลก
จัดลำดับประเทศผู้ผลิตกาแฟอันดับต้นๆในโลก 10 ลำดับที่ผลิต และส่งออกกาแฟมากที่สุดต่อปี
ด้วยร้าน คาเฟ่ หรือ ร้านกาแฟมีจำนวนมากทุกซอกทุกมุม จำนวนนับไม่ถ้วนทั่วโลก จึงไม่แปลกใจที่กาแฟเป็นหนึ่งในสินค้าชั้นนำทั่วโลก ในฐานะที่กาแฟเป็นเครื่องดื่มที่มีการบริโภคมากที่สุดเป็นลำดับ 3 รองจาก น้ำ และชา เมล็ดกาแฟจึงเป็นที่ต้องการสูงในทุกที่ แต่ละประเทศที่มีการผลิตเมล็ดกาแฟ จึงกระตือรื้นร้นที่จะหาทางส่งออกเมล็ดกาแฟ ล้านกิโลกรัมให้ถึงมือผู้บริโภค
กาแฟเป็นสินค้าส่งออกลำดับ 2 ที่มีการซื้อขายมากที่สุด รองจากน้ำมันเท่านั้น กาแฟมีการขายสูงถึงประมาณ 5 แสนล้านล้านถ้วยต่อปี ไม่เพียงแค่นำเมล็ดกาแฟใช้ชงกาแฟ เมล็ดกาแฟเมื่อผ่านกระบวนการ Decaffeination (เป็นการสกัดคาเฟอีน) ใช้ในเครื่องดื่มเช่น โคล่า , ยา และ เครื่องสำอาง จากที่ทราบกันว่าเมล็ดกาแฟมี 2 พันธ์ุที่นิยมคือ อาราบิก้า คิดเป็น 70% ของกาแฟ และโรบัสต้า ที่มีราคาถูกกว่าและปลูกได้ง่ายกว่า
10 ประเทศดังนี้ที่ International Coffee Organization จัดให้เป็นผู้ผลิตกาแฟชั้นนำของโลก
10. Guatemala 224,871 US tons
![](https://miro.medium.com/max/60/1*us5Vz4gQuuCicR6WHb9bWA.jpeg?q=20)
กัวเตมาลาผลิตเมล็ดกาแฟ 204 ล้าน กิโลกรัม ในปี 2015 และตัวเลขการผลิตยังคงที่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เมล็ดกาแฟมีความอุดมสมบูรณ์มากที่สุด ในกัวเตมาลามีอุณหภูมิอยู่ราวๆ 16–32 องศาสเซลเซียส และ มีระดับความสูงระหว่าง 500–5,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะล ในปี 1800 รัฐบาลเริ่มมีนโยบาลสนับสนุนอุตสาหกรรมโดยเสนอผลประโยชน์ทางการค้า และภาษี ในปี 1960 รัฐบาลผลักดันกาแฟกัวเตมาลาต่อให้มากขึ้นกับความต้องการของโลกได้มีการจัดตั้ง Anacafé (Asociación Nacional del Café) ซึ่งเป็นสมาคมการตลาด ปัจจุบันยังคงส่งเสริมประเทศผลิตกาแฟไปทั่วโลก
9. Mexico 257,940 US tons
![](https://miro.medium.com/max/60/1*Qzx9-rxKFl_6fdLLPAc_ew.jpeg?q=20)
ในปี 2015 เม็กซิโก ผลิตเมล็ดกาแฟได้มากกว่า 234 ล้าน กิโลกรัม ประเทศส่วนใหญ่ปลูกเมล็ดพันธ์ุอาราบิก้าคุณภาพสูงในบริเวณพื้นที่ชายฝั่งใกล้ชายแดน กัวเตมาลา ส่วนใหญ่ในการนำเข้ากาแฟสหรัฐมาจากเม็กซิโก
ในปี 1990 เกิดวิกฤตในการผลิตกาแฟของเม็กซิโก เป็นข้อตกลงสินค้ากาแฟระหว่างประเทศ(ICA) ทำให้ถูกถอดออก ราคากาแฟลดลง และโควต้าการส่งออกไม่ได้ถูกควบคุมอย่างเคร่งครัด เม็กซิโกจึงไร้ความสามารถทางการ เเข่งขันในตลาดโลก จากการลดลงของราคากาแฟ และการผลิต ทำให้รายได้หายไป เกิดเป็นปัญหาสังคมทั่วประเทศเม็กซิโก ขณะที่การผลิตกาแฟลดลงในช่วง ทศวรรษที่ 90 และเข้าสู่ยุค 2000 ความต้องการจากประเทศสหรัฐอเมริกาคงที่ได้ทำให้ตลาดกาแฟเม็กซิโกฟื้นตัว
8. Uganda 314,489 US tons
![](https://miro.medium.com/max/60/1*adDI4gsY9msW-tFyGtK51g.jpeg?q=20)
ในขณะที่ประเทศยูกันดา อาจจะไม่ใช่ประเทศที่อยู่ในใจเมื่อคุณคิดถึงการผลิดกาแฟที่ 285 ล้านกิโลกรัม ในปี 2015 การส่งออกรายได้ติดอันดับในแอฟริกากลางได้กลายเป็นผู้ผลิตกาแฟรายใหญ่ อันดับที่ 8 แทนเม็กซิโก ยูกันดาปลูกเมล็ดกาแฟทั้ง 2 พันธุ์ โดยโรบัสต้า เป็นพืชพื้นเมืองไปยังพื้นที่ป่า Kibale เช่นเดียวกับอาราบิก้า อยู่บริเวณใกล้เคียงกับประเทศเอธิโอเปีย
กาแฟเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจของยูกันดา ประชากรส่วนใหญ่ทำงานในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับกาแฟ การผลิตกาแฟเป็นประเทศแรกที่ภาครัฐเข้าควบคุมได้ยาก อย่างไรก็ตาม หลังจากมีการแปรรูปเป็นรัฐวิสาหกิจในปี 1991 พบการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งนำไปสู่การเพิ่มขึ้นสูงถึง 5100% ในการผลิตตั้งแต่ปี 1989 อย่างไรก็ตามรัฐบาลยังคงไม่แทรกแซงในอุตสาหกรรมนี้ที่มีการควบคุมโดย Uganda Coffee Development Authority
7. Honduras 380,296 US tons
![](https://miro.medium.com/max/60/1*t-XfobIzT4LU-WLbkRbw0A.jpeg?q=20)
ฮอนดูรัส ผลิตกาแฟ 345 ล้าน กิโลกรัม ในปี 2015 กลายเป็นผู้ผลิตกาแฟ อันดับต้นๆของอเมริกากลาง ฮอนดูรัสยังคงเผชิญปัญหาการสร้างตราสินค้าประเทศ ในขณะที่คนส่วนใหญ่รู้จักกาแฟโคลอมเบีย หรือ เอธิโอเปีย เมล็ดกาแฟจากฮอนดูรัสส่วนใหญ่จะใช้ในการ blends จึงเป็นที่รู้จักน้อยในผู้บริโภค
อย่างไรก็ตามกาแฟยังคงเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจ ฮอนดูรัสเป็นผู้ผลิตที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกากลาง อุตสาหกรรมกาแฟมีการจ้างงานอย่างต่อเนื่อง และเป็นรายได้ส่วนใหญ่ของประชากรในประเทศ แนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศลอยตัวในช่วงปี 2009 จากวิกฤตทางการเมือง และการรัฐประหาร
6. India 385,786 US tons
![](https://miro.medium.com/max/60/1*Zyx2aB3BJ3pvM-nu4Hmoow.jpeg?q=20)
ในขณะที่อินเดีย อาจจะไม่ใช้ประเทศแรกที่อยู่ในใจเมื่อคุณคิดถึงการผลิตกาแฟที่ 349,980,000 กิโลกรัม ในปี 2015 ไม่เพียงภูมิภาคของประเทศที่มีความหลากหลายมีความเหมาะสมสำหรับการผลิตกาแฟ การปลูกกาแฟส่วนใหญ่ทำบริเวณ เนินเขาของรัฐอินเดียทางใต้ เมล็ดกาแฟปลูกโดย เกษตรกรย่อยๆในช่วงมรสุม ฝนชุก และมักจะปลูกควบคู่ไปกับเครื่องเทศ เช่น กระวาน และอบเชย ซึ่งช่วยให้กาแฟมีรสชาติเผ็ด และมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ในปี 2004 แบรนด์ Tata แบรนด์กาแฟของชาวอินเดียได้รับรางวัลชนะเลิศ 3 รางวัล ที่งาน Grand Crus De Cafe Competition
กาแฟอาจจะไม่ได้เป็นเครื่องดื่มที่นิยมมากที่สุดในประเทศอินเดีย ที่มีประชากรมากถึง 1.25 พันล้านคน เช่น 80% ของการผลิตกาแฟของอินเดียมีจุดประสงค์เพื่อการส่งออกกับผู้ซื้อเป็นหลักมียุโรป และรัสเซีย
5. Ethiopia 423,287 US tons
![](https://miro.medium.com/max/60/1*QOkdfw5D60DpvRzdtaMxLA.jpeg?q=20)
เอธิโอเปีย มีการผลิตเมล็ดกาแฟทุกปีด้วยปริมาณสูงถึง 384 ล้าน กิโลกรัม ในปี 2015 เอธิโอเปียเป็นบ้านทางภูมิศาสตร์ของกาแฟอาราบิก้า ซึ่งเป็นกาแฟที่นิยมมากที่สุดทั่วโลก เศรษฐกิจของเอธิโอเปีย มากกว่า 28% ของการส่งออกประจำปีเป็นผลมาจากกาแฟ และเป็นที่คาดว่าประชากร 15 ล้านคนถูกจ้างงานในการผลิตกาแฟ
เอธิโอเปียมีวัฒนธรรมกาแฟที่อุดมสมบูรณ์มากๆ มีมานานกว่า 1,100 ปี จากการตั้งข้อสังเกตุของคนเลี้ยงเเกะ พบว่าฝูงสัตว์มีอาการตื่นตัวเมื่อกินเมล็ดกาแฟเข้าไป ตั้งแต่นั้นเป็นจุดเริ่มต้นของกาแฟและมีการทำฟาร์มเมล็ดกาแฟที่หลากหลายรูปแบบ อาราบิก้าได้รับการพัฒนาที่มีชื่อ และรสชาติเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น เมล็ดกาแฟ Harar, Limu, Sidamo และ Yirgacheffe เครื่องหมายทางการค้าเมล็ดกาแฟอาราบิก้าทั้งหมดในเอธิโอเปียเจ้าของได้รับสิทธิในการเป็นเจ้าของ และได้รับการคุ้มครองโดยรัฐบาลเอธิโอเปีย
4. Indonesia 814,629 US tons
![](https://miro.medium.com/max/60/1*T6BlJntLnHBUrA6Ff2yhxQ.jpeg?q=20)
แม้ว่าประเทศอินโดนีเซียอาจไม่เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ แต่เป็นผู้ผลิตเมล็ดกาแฟอันดับต้นๆ ผลิตมากกว่า 660 ล้าน กิโลกรัมในปี 2015 อินโดนีเซียเลือกปริมาณการผลิตมากกว่าวิธีการที่มีคุณภาพ จากสภาพภูมิอากาศที่ดี เหมาะสำหรับการผลิตกาแฟ มีที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ใกล้เส้นศูนย์สูตรที่เหมาะสำหรับการเพาะปลูกการผลิตกาแฟได้รับอิทธิพลโดยชาวดัชต์ และมีการผลิตอย่างต่อเนื่องหลังจากการล่าอาณานิคม
ปัจจุบันการเพาะปลูกกาแฟครอบคลุมมากกว่า 1 ล้านไร่ ของประเทศอินโดนีเซียมากกว่า 90% ของพืชที่ปลูกทั้งหมด
กาแฟขี้ชะมด เป็นหนึ่งในกาแฟที่มีคุณภาพ และมีชื่อเสียงของอินโดนีเซีย ชะมดเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในป่าทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชะมดจะเลือกกินเมล็ดกาแฟสุก(เมล็ดกาแฟสุกจะมีสีแดงเหมือนเชอร์รี่)ซึ่งมีคุณภาพที่ดีกว่า และกลไกการย่อยของชะมดอาจจะเพิ่มรสชาติของเมล็ดกาแฟ คือ ชะมดจะกินเมล็ดกาแฟพร้อมกับเนื้อเข้าไป และจะเกิดการหมักในทางเดินอาหาร และเมล็ดจะผ่านระบบทางเดินอาหารของตัวชะมดจนกระทั่งถ่ายออกมา ราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 1 แสนบาท
3.Colombia 892,871 US tons
![](https://miro.medium.com/max/60/1*7ROSXD0OLv5Aw48oJ14bbA.jpeg?q=20)
กาแฟโคลอมเบียมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก บางส่วนมาจากการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมีตัวละคร Juan Valdez เป็นภาพของเกษตรกรกาแฟโคลอมเบีย เป็นการสร้างโฆษณาให้เป็นรู้จักโดยสภาแห่งชาติของเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟโคลอมเบีย (National Federation of Coffee Growers of Colombia) อย่างไรก็ตาม ระหว่างปี 1980 และปี 2010 เกิดปัญหาการผลิตกาแฟโคลอมเบียขึ้น จากสภาพภูมิอากาศ
ในอดีตการผลิตกาแฟโคลอมเบียมากเป็นอันดับ 2 รองจากบราซิล แต่ปัจจุบันผลิตได้เป็นอันดับ 3 รองจากเวียดนามที่มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว แม้ว่าโคลอมเบียจะมีผลกระทบของสภาพภูมิอากาศแต่ในปี 2015 การส่งออกกาแฟโคลอมเบียสูงถึง 810 ล้าน กิโลกรัม ทำให้โคลอมเบียยังคงมีบทบาทสำคัญในตลาดกาแฟระหว่างประเทศ
2. Vietnam 1,818,811 US tons
![](https://miro.medium.com/max/60/1*1-2eYXCYRvs1sMuT2Qpntg.jpeg?q=20)
ในขณะที่หลายคนคุ้นเคยกับกาแฟเวียดนาม เป็นกาแฟผสมกับนมข้นหวาน เวียดนามเป็นประเทศที่มีการผลิตกาแฟใหญ่เป็นอันดับ 2 ในโลก สูงถึง 1,650 ล้าน กิโลกรัม ในปี 2015 กาแฟยังคงเป็นส่วนใหญ่ของเศรษฐกิจเวียดนาม ที่มีการส่งออกมากกว่าข้าว
เวียดนามมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วในการผลิตกาแฟ ในปี 1975 ผลิตกาแฟได้เพียง 6,000 ตัน และปี 2015 ผลิตกาแฟได้เกือบ 2,000 ล้าน กิโลกรัม ทำให้เวียดนามกลายเป็นผู้ผลิต และส่งออกเป็นอันดับ 2
1.Brazil 2,859,502 US tons
![](https://miro.medium.com/max/60/1*UsKge5qI0tqE9cKlw28bsw.jpeg?q=20)
ในขณะที่บราซิล เป็นประเทศที่รู้กันว่าเป็นผู้ส่งออกกาแฟชั้นนำของโลก สวนกาแฟบราซิลครอบคลุมพื้นที่ 27,000 ตารางกิโลเมตร ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ใน Minas Gerais, Sao Paulo และ Parana ใน 3 รัฐทางตะวันออกเฉียงใต้ของบราซิลมีสภาพภูมิอากาศ และอุณหภูมิที่เหมาะสำหรับการผลิตกาแฟ