เวียดนามเป็นชนชาตินิยมดื่มกาแฟ ในศตวรรษที่ 19 ฝรั่งเศสได้นำกาแฟและเผยแพร่วัฒนธรรมการดื่มกาแฟในเวียตนาม  เวียตนามจึงเริ่มปลูกกาแฟและได้เป็นประเทศผู้ปลูกกาแฟสำคัญของโลก โดยในช่วงปลายศตวรรษ 1990 เวียตนามเป็นผู้ปลูกกาแฟใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากบราซิล รวมทั้งเป็นผู้ส่งออกกาแฟสำคัญ เวียตนามปลูกกาแฟหลายพันธ์ในภาคต่างๆของประเทศ อาทิ Arabica, Robusta, Chari (Excelsa) , Catimor เป็นต้น ทำให้สามารถผลิตกาแฟผสมให้ได้รส ลักษณะ และความสมดุลของกาแฟที่หลากหลาย 

      เวียดนามเป็นแหล่งผลิตกาแฟที่ติดอันดับต้น ๆ ของโลก สามารถผลิตกาแฟได้หลากหลาย จึงไม่น่าแปลกใจที่ในเวียดนามมีร้านกาแฟอยู่แทบจะทุกหัวมุมเมือง ร้านกาแฟในเวียดนามที่ไม่ใช่ร้านแฟรนไชส์จากต่างประเทศ มีลักษณะที่ต่างจากที่อื่นคือ ร้านกาแฟทั่วไปในเวียดนามมักจะมีคาราโอเกะให้บริการด้วย เพราะคนเวียดนามชอบร้องคาราโอเกะ เรียกว่าเป็นดื่มกาแฟเคล้าเสียงเพลง สนุกสนานกันไป ถือเป็นสันทนาการเพื่อพักผ่อนหย่อนใจเช่นเดียวกับคนไทย

      การชงกาแฟแบบเวียตนามดั้งเดิม มีลักษณะคล้ายกับกาแฟของไทย คือกาแฟเย็น ชงโดยใส่นมข้นและน้ำแข็ง และกาแฟร้อน มีทั้งแบบกาแฟดำไม่ใส่นม และกาแฟร้อนใส่นมข้น กาแฟแบบดั้งเดิม นิยมใส่นมข้น มากกว่านมสด ปัจจุบันนี้ร้านกาแฟเชนหรือร้านกาแฟเฟรนไชส์เริ่มมีจำนวนมากขึ้น คนหนุ่มสาวนิยมเข้าร้านกาแฟสมัยใหม่เหล่านี้พร้อมกับสั่งเบเกอรี่แซนวิช หรือเค้กมาทานคู่กับกาแฟ

      กาแฟเวียดนามและวัฒนธรรมทางสังคมเป็นส่วนผสมหนึ่งที่ลงตัว บางคนอาจต้องใช้ระยะเวลาหลายปีในการค้นพบส่วนผสมที่ลงตัวนี้ ในฮานอย กาแฟเป็นศิลปะในการเพลิดเพลินกับเมืองเก่าที่สวยงาม สามารถพบร้านขายกาแฟเป็นร้อยๆร้านส่งผ่านสูตรลับจากรุ่นสู่รุ่น ดังนั้นชาวฮานอยจึงมีทางเลือกมากมายในการดื่มกาแฟ ในเมืองไซง่อนคุณสามารถพบคนดื่มกาแฟได้ในทุกที่ ทุกเวลา ทุกวัน และคุณสามารถซื้อกาแฟได้ทุกมุมของถนน