• กาแฟเป็นเครื่องดื่มสากลของคนทั่วโลก ซึ่งแต่ละประเทศมีวัฒนธรรมการดื่มกาแฟที่เป็นเอกลักษณ์และสะท้อนวิถีชีวิตที่แตกต่างกัน มีเสน่ห์ในแบบฉบับของแต่ละประเทศ
• วัฒนธรรมการดื่มกาแฟของชาวอิตาเลียน นิยมดื่ม Espresso ในแก้ว To Go Cup แบบพร้อมนำแก้วเดินออกจากร้านเมื่อไหร่ก็ได้
• ชาวคิวบาดื่มกาแฟได้ทั้งวัน จึงไม่ต้องแปลกใจหากพบเห็นผู้คนถือ Short Espresso ระหว่างการสังสรรค์ เพราะกาแฟถือเป็นเครื่องดื่มประจำงานสังคมของประเทศคิวบา

การดื่มกาแฟกลายเป็นกิจวัตรประจำวันของใครหลายคนไปแล้ว ซึ่งการเริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยกาแฟแก้วโปรดสักแก้ว คงจะเป็นเรื่องที่ทำให้มีความสุขตั้งแต่หัววันเลยทีเดียว และคงปฏิเสธไม่ได้ว่ากาแฟเป็นเครื่องดื่มสากลของคนทั่วโลก แต่รู้กันหรือไม่ว่า…แต่ละประเทศมีวัฒนธรรมการดื่มกาแฟที่แตกต่างกัน มีความเป็นเอกลักษณ์และสะท้อนวิถีชีวิตที่แตกต่างกันได้อย่างมีเสน่ห์ในแบบฉบับของประเทศต่าง ๆ มาทำความรู้จักกับวัฒนธรรมการดื่มกาแฟจะทำให้คุณทึ่งกับเครื่องดื่มชนิดนี้ไปพร้อมกันเลย

13 วัฒนธรรมการดื่มกาแฟของแต่ละประเทศที่แตกต่างกัน

1.ประเทศมาเลเซีย (Malaysia)

ชาวมาเลเซีย มีวัฒนธรรมการดื่มกาแฟที่สามารถดื่มได้ทั้งตอนกลางวันและกลางคืน จะเป็นกาแฟเย็นหรือกาแฟร้อนก็ได้หมด โดยมีอัตราส่วนผสม คือ กาแฟดำ 3 ส่วน และชานมฮ่องกงอีก 7 ส่วน

2.ประเทศออสเตรเลีย (Australia)

วัฒนธรรมการดื่มกาแฟของประเทศออสเตรเลีย จะดื่มเพื่อสุขภาพ เข้าสังคม และฝึกสมาธิ ชาวจิงโจ้เองก็ได้ประกาศว่าตัวเองนั้นเป็นพวกเห่อกาแฟ และกาแฟ Flat white ก็เป็นกาแฟสไตล์ออสซี่ (Australian Style) เช่นกัน

3.ประเทศอิตาลี (Italy)

วัฒนธรรมการดื่มกาแฟของชาวอิตาเลียน นิยมดื่ม Espresso ในแก้ว To Go Cup แบบพร้อมนำแก้วเดินออกจากร้านเมื่อไหร่ก็ได้ และต้องยืนดื่มในคาเฟ่เล็ก ๆ พูดคุยกับเพื่อน ทักทายผู้คนในละแวกนั้น นี่แหละสไตล์อิตาเลียนของแท้ ที่สำคัญจำเอาไว้ว่า ช่วงเวลาเดียวที่เหมาะสำหรับการดื่มด่ำกาแฟในอิตาลี คือ ช่วงเช้าเท่านั้น เพราะ ประเทศอิตาลีนิยมดื่ม Short Espresso หากดื่มในเวลาอื่น คุณอาจตาค้างไปทั้งวันเลยก็ได้

4.ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland)

ชาวสวิส (Swiss people) มีวัฒนธรรมการดื่มกาแฟรสเข้ม อย่างกาแฟ Espresso กับ Kaffee Crème (Espresso with milk) เป็นที่นิยมกันมาอย่างยาวนาน

5.ประเทศฝรั่งเศส (France)

ชาวฝรั่งเศสมักเริ่มต้นวันใหม่ด้วยวัฒนธรรมการดื่มกาแฟ Café au Lait เป็นกาแฟผสมกับฟองนมในสัดส่วนที่เท่ากัน คล้ายกับ Cappuccino และอีกหนึ่งเอกลักษณ์ ก็คือ แก้วกาแฟที่ฝรั่งเศสจะมีปากกว้างมาก เป็นเพราะชาวฝรั่งเศสจะชอบจุ่มขนมปัง Baguette หรือ Croissant กลิ่นเนยสด ในแก้วกาแฟ

6.ประเทศเดนมาร์ก (Denmark)

ประเทศเดนมาร์ก เป็นประเทศที่มีผู้คนนิยมดื่มกาแฟติดอันดับต้น ๆ ของโลก เพราะด้วยอากาศที่หนาวตลอดทั้งปีนี่เอง ทำให้สามารถพบร้านกาแฟได้ในทั่วทุกมุม ซอกซอยต่าง ๆ ที่เรียกได้ว่าภายในหนึ่งเดือนจะได้ดื่มกาแฟไม่ซ้ำร้านกันอย่างแน่นอน

7.ประเทศไอร์แลนด์ (Ireland)

วัฒนธรรมการดื่มกาแฟของชาวไอริส มาจากอากาศที่หนาวเหน็บในยามค่ำคืน ที่ยากจะข่มตาหลับได้ ซึ่งการเติม Whisky ลงไปในกาแฟ (Irish Coffee) จะช่วยให้ร่างกายอบอุ่นขึ้น และในปัจจุบัน Irish Coffee ก็กลายเป็นกาแฟหลัง Dinner ที่ต้องเติมน้ำตาลและวิปครีม เพื่อรสชาติที่กลมกล่อม และชาวไอริสยังเชื่ออีกว่าจะช่วยทำให้นอนหลับ อุ่น และสบายอีกด้วย

8.ประเทศฟินแลนด์ (Finland)

การดื่มกาแฟให้ได้ลิ้มรสชาติตามแบบของชาวฟินแลนด์ จะต้องเทกาแฟร้อนลงบนก้อนชีสเต้าหู้ (Juustoleipä) นี่แหละที่เป็นเอกลักษณ์ของกาแฟฟินแลนด์

9.ประเทศคิวบา (Cuba)

การดื่มกาแฟสำหรับชาวคิวบา จะต้องเป็นกาแฟเข้มข้นแบบ Espresso เท่านั้น วัฒนธรรมการดื่มกาแฟของประเทศนี้ มักดื่มในตอนเช้าของหลังมื้ออาหาร หรือว่ากันจริง ๆ แล้ว ชาวคิวบาก็ดื่มกาแฟได้ทั้งวัน จึงไม่ต้องแปลกใจ หากพบเห็นผู้คนถือ Short Espresso ระหว่างการสังสรรค์ เพราะกาแฟถือเป็นเครื่องดื่มประจำงานสังคม

10.ประเทศตุรกี (Turkey)

ชาวตุรกีเชื่อว่า กาแฟที่ดีจะต้องดื่มพร้อมกับตะกอนกาแฟที่ตกอยู่ก้นแก้ว เพราะเมล็ดกาแฟที่ถูกบดและเคี่ยวในหม้อทองแดงหรือทองเหลือง (Cezve) โดยไม่ผ่านการกรองใด ๆ ทำให้มีกาแฟตกตะกอนอยู่ แปลว่า การดื่มกาแฟจะต้องดื่มไปพร้อมกับตะกอนกาแฟนั่นเอง

11.ประเทศเม็กซิโก (Mexico)

Café de Olla ชื่อเรียกกาแฟท้องถิ่นของชาวเม็กซิโก จะเสิร์ฟในถ้วยดินเผา พร้อมแท่งอบเชยและน้ำตาลอ้อยที่ยังไม่แปรรูป (Piloncillo) ที่ชาวพื้นเมืองเชื่อว่าจะทำให้รสชาติกาแฟดีขึ้น

12.ประเทศซาอุดีอาระเบีย (Saudi Arabia)

สำหรับในซาอุดิอาระเบียและชนชาติอาหรับ วัฒนธรรมการดื่มกาแฟถือเป็นพิธีกรรม ที่ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด มีมารยาทในการดื่มกาแฟ การเสิร์ฟกาแฟให้กับผู้อาวุโสก่อน และต้องเสิร์ฟกาแฟร้อน ที่มีส่วนผสมของเครื่องเทศหลายอย่างรวมกัน ทั้งกระวาน อบเชย ผงจากดอก Crocus และขิง เพื่อชดเชยรสขมของกาแฟ และมักจะเสิร์ฟพร้อมกับอินทผาลัมด้วย

13.ประเทศนอร์เวย์ (Norway)

ชาวนอร์เวย์ ในบริเวณเมืองหลวงอย่างออสโล (Oslo) ค่อนข้างจริงจังกับการดื่มกาแฟมาก ตั้งแต่วิธีการชง ไปจนถึงต้นกำเนิดของเมล็ดกาแฟ ซึ่งกาแฟของนอร์เวย์จะเป็นกาแฟคั่วอ่อน รสชาติกลมกล่อมคล้ายชา และที่สำคัญจะไม่มีการใส่นมหรือน้ำตาล แปลว่า จะไม่มีเมนูลาเต้โผล่มาแน่นอน

เห็นไหมล่ะว่า เรื่องต่างถิ่นต่างแดน ไม่ได้ต่างเฉพาะภาษา รูปร่างหน้าตา แม้กระทั่งเมนูเครื่องดื่ม และวัฒนธรรมการดื่มกาแฟก็ยังแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ซึ่งแต่ละประเทศก็มีวัฒนธรรมที่มีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง ฉะนั้น หากใครมีโอกาสได้ไปสัมผัสเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมการดื่มกาแฟด้วยตัวเอง ก็อย่าลืมเอามาเล่าให้ฟังกันบ้างนะ