การเลือกซื้อเมล็ดกาแฟคั่วบดให้ได้คุณภาพดั่งใจ

สำหรับคนที่ชอบสัมผัสรสชาติของกาแฟสดมากกว่ากาแฟซองสำเร็จรูปที่ดูเหมือนจะสูญเสียกลิ่นอายความหอมของการคั่วและกลิ่นละมุนนุ่มๆ ตามธรรมชาติของเมล็ดกาแฟไป คอกาแฟที่มีใจรักแบบอนุรักษ์นิยมส่วนใหญ่จึงหันมาเลือกยุ่งยากด้วยการชงจากเมล็ดกาแฟคั่วที่มีขายอยู่ตามห้างสรรพสินค้ามากกว่า

แม้ว่าการชงจะต้องใช้เครื่องมือในช่วย ทว่ามันคุ้มค่ากับการนั่งจิบกลิ่นอายหอมๆ ที่ได้สูดกลิ่นที่ผ่านการคั่วบดสู่จมูกและลิ้มรสอันบริสุทธิ์ของมันได้อย่างเต็มที่มากกว่า แต่ด้วยหลากหลายของยี่ห้อเมล็ดกาแฟคั่วในท้องตลาด มีหลายเกรดให้เลือกซื้อ ตั้งแต่ราคาถูกไปจนถึงราคาแพง แต่การเลือกซื้อเพื่อให้ได้เมล็ดกาแฟคั่วที่มีคุณภาพคุ้มค่ากับราคา เราอาจจะต้องเรียนรู้อะไรมากไปกว่าคำโฆษณาของซอง

เลือกเมล็ดกาแฟให้เหมาะกับเครื่องชง

ก่อนอื่นบ้านไหนมีเครื่องชงกาแฟเป็นของตัวเองอยู่แล้ว การเลือกเมล็ดกาแฟคั่วบดจะต้องเลือกเมล็ดที่ใช้สำหรับการชงของเครื่องนั้นๆ โดยเฉพาะ เพื่อให้ได้รสชาติของกาแฟที่มีคุณภาพ ยกตัวอย่างหากเครื่องที่ใช้เป็นชนิดเอสเปรสโซ่ ก็ควรเลือกยี่ห้อที่เขียนเอาไว้ว่าเป็นแบบเอสเปรสโซ่ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการเมล็ดที่ถูกบดขึ้นมาอย่างละเอียด ช่วยให้ได้รสชาติที่เข้มข้นและมีความหอมแบบเฉพาะตัว หากเลือกซื้อเมล็ดกาแฟที่ไม่เหมาะกับตัวเครื่อง จะทำให้ในขั้นตอนการชงได้กาแฟที่รสชาติไม่เต็มที่ อีกทั้งยังสูญเสียความเข้มข้นของมันไปอย่างน่าเสียดายอีกด้วย

meggos.com-Coffee_beans_1920-x-1200-widescreen-__ύ___ωΊ_ (Custom)

Credit : meggos.com

การเลือกคุณภาพของกาแฟให้ได้มาตรฐาน

สำหรับการเลือกบรรจุภัณฑ์ของกาแฟคั่วบด สิ่งแรกที่เราควรสังเกตคือรายละเอียดต่างๆ ที่จะชี้แจ้งเอาไว้ด้านข้างของซอง เพื่อบอกถึงคุณภาพ ตั้งแต่สายพันธุ์ ประเภทว่ามีคาเฟอีนหรือไม่มีคาเฟอีน เป็นกาแฟอาราบิก้า โรบัสต้า หรือผสมผสาน รวมไปถึงลักษณะอื่นๆ ที่จะช่วยให้เราสามารถเลือกรสชาติที่ต้องการได้อย่างไม่ผิดหวัง

มาถึงส่วนที่จะช่วยให้เราได้คุณภาพของกาแฟคั่วบดอย่างเต็มที่ คือวันที่ๆ ระบุวันคั่วเอาไว้ ประเภทของการคั่ว ปริมาณของเมล็ด น้ำหนัก และที่สำคัญควรเลือกบรรจุภัณฑ์ชนิดสูญญากาศ ไม่มีร่องรอยชำรุด ซึ่งจะช่วยให้การกักเก็บเมล็ดกาแฟคั่วคงรสชาติของมันเอาไว้ได้โดยไม่กระทบกับออกซิเจนในอากาศ

cupped.co.za-home-box-1 (Custom)

Credit : cupped.co.za

เลือกซื้อกาแฟคั่วบดที่ไม่ต้องเก็บไว้นาน

หลายคนอาจจะคิดว่ากาแฟคั่วบดสามารถเก็บไว้ได้นาน ซึ่งในความเป็นจริงเราก็สามารถเก็บมันเอาไว้ได้นานเช่นกัน แต่ข้อเสียที่จะได้มาคือรสชาติ กลิ่น และคุณภาพที่ด้อยลงเมื่อนำมาผ่านเครื่อง อันเนื่องมาจากความชื้นในอากาศ ออกซิเจน และอุณหภูมิที่จะส่งผลกระทบให้เมล็ดกาแฟมีกลิ่นเหม็นหืน หรือมีรสชาติอมเปรี้ยวขึ้นมาได้ ดังนั้นทางที่ดีควรเลือกซื้อเมล็ดกาแฟคั่วบดที่สดใหม่และต้องใช้ให้หมดภายใน 1 อาทิตย์ ส่วนการสังเกตว่าเมล็ดกาแฟคั่วมีคุณภาพหรือไม่ ให้ดมกลิ่นว่ายังมีความหอม หรือมีกลิ่นอื่นๆ มาเจือปนด้วยไหม หากได้กลิ่นหอมของกาแฟคั่วแบบโดดๆ ก็ถือว่าเป็นอันใช้ได้ เพียงพอที่เราจะได้เครื่องดื่มที่มีรสชาติอร่อยได้อย่างที่ต้องการ

9555894-hot-roasted-coffee-beans

Credit : infood.co.za

หันมาเลือกซื้อเมล็ดกาแฟคั่วที่ยังไม่ผ่านการบด

เพื่อแก้ปัญหาความวุ่นวายในข้างต้น เพื่อคงรสชาติที่ดีของกาแฟเอาไว้ให้ได้นานมากขึ้น ทางเลือกอีกอย่างหนึ่งก็คือหันมาเลือกซื้อเป็นเมล็ดกาแฟคั่วทั่วไปที่ยังไม่ผ่านการบด และนำเอามาบดเองเท่ากับปริมาณที่ต้องการต่อวันเท่านั้น หรือมากสุดก็บดเก็บเอาไว้สำหรับชงไม่เกิน 3 วัน จะช่วยให้กาแฟไม่สูญเสียกลิ่นและรสชาติของมันไปจนหมด

นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการซื้อกาแฟคั่วบดที่มาจากห้างสรรพสินค้า เนื่องจากอายุการวางจำหน่ายที่นาน หรือมีกลิ่นแปลกปลอมผสมเข้ามาจนทำให้เสียรสชาติของกาแฟสดแท้ไปได้นั่นเอง