ประโยชน์ของการดื่มกาแฟมีอะไรบ้าง ?
กาแฟเป็นเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนซึ่งเป็นสารที่ออกฤทธิ์กระตุ้นประสาท ซึ่งต้องดื่มในปริมาณที่พอเหมาะจะช่วยให้เกิดประโยชน์ แต่หากดื่มในปริมาณที่มากเกินไปอาจจะทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ และร่างกายหลายด้าน ได้แก่ เกิดอาการใจสั่น นอนไม่หลับ กระวนกระวาย เกิดอาการกังวลและหงุดหงิดง่าย อีกทั้งสตรีที่ตั้งครรภ์ไม่ควรดื่มกาแฟในปริมาณที่มากเกินไปเนื่องจากอาจจะมีผลกับทารกในครรภ์ได้
สำหรับปริมาณของกาแฟที่เหมาะสมในการดื่มแต่ละวันนั้นปริมาณมากที่สุดในการบริโภค คือ ไม่ควรเกิน 4 แก้วต่อวัน หรือไม่เกิน 20 ออนซ์ แต่ปริมาณที่เหมาะสมที่สุดเพื่อที่จะทำให้ดื่มกาแฟแล้วได้ประโยชน์นั้นคือวันละ 1-2 แก้ว หรือประมาณ 10 ออนซ์เท่านั้น ซึ่งหากดื่มในปริมาณที่เหมาะสมแล้วนั้นจะทำให้ได้รับประโยชน์จากกาแฟมากมาย
ประโยชน์ของกาแฟนั้นมีมากมายหลายอย่าง โดยเฉพาะในเรื่องของการต้านอนุมูลอิสระ จากการศึกษาของนักวิจัยจากศูนย์วิจัยในสวิตเซอร์แลนด์ พบว่าเมล็ดกาแฟมีสารต้านอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้าซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าเมล็ดกาแฟสายพันธุ์อื่น นอกจากนี้ประโยชน์ของกาแฟ ยังช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ ได้แก่
- → ช่วยป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบ B
- → ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ป้องกันโรคหัวใจ
- → ช่วยกระตุ้นสมองให้ทำงานได้เร็วขึ้น และมีสมาธิ
- → ช่วยป้องกันโรคหอบ
- → มีกรดอะซิติก ช่วยป้องกันโรคมะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ และมะเร็งช่องปาก
- → ช่วยลดการเกิดโรคตับจากการดื่มสุรา
- → ช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะจากการเมาสุรา
- → การดื่มกาแฟหลังอาหารช่วยลดความอ้วนได้
- → กาแฟเข้มข้นจะทำให้ออกไซด์แตกตัวช่วยชะลอความแก่
กาแฟยังได้ถูกนำเอามาใช้เป็นส่วนผสมเกี่ยวกับเรื่องของความสวยความงาม โดยเฉพาะการลดน้ำหนัก สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะกลิ่นของกาแฟสามารถลดอาการอยากอาหารได้ อีกทั้งกาแฟยังสามารถเปลี่ยนไขมันให้กลายเป็นกรดไขมัน หลังจากออกกำลังกายที่สามารถขับถ่ายออกจากร่างกายได้ และเนื่องจากกาแฟมีส่วนผสมของคาเฟอีน ที่มีฤทธิ์ช่วยเพิ่มความกระชุ่มกระชวย ช่วยขจัดความอ่อนล้า
ซึ่งการดื่มกาแฟจะช่วยให้สามารถออกกำลังกายได้นานขึ้น เป็นสารที่ช่วยเร่งการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย ทำให้ไขมันที่สะสมตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย สลายเป็นพลังงานความร้อน โดยเวลาที่เหมาะสมของการดื่มกาแฟเพื่อช่วยให้ออกฤทธิ์ในการเผาผลาญ และย่อยอาหารคือการดื่มกาแฟร้อน โดยเฉพาะกาแฟดำ เนื่องจากไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล และไม่ใส่นม โดยควรเป็นการดื่มหลังจากรับประทานอาหารเที่ยงประมาณครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมง หรือเป็นการดื่มกาแฟก่อนออกกำลังกายก็จะช่วยเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการลดความอ้วนหรือในการลดน้ำหนักได้