ทำความรู้จักกาแฟ 4 สายพันธุ์ ที่จะทำให้คุณเลือกดื่มกาแฟได้ตรงกับไลฟ์สไตล์

ในยุคที่ “ร้านกาแฟ” เป็นเหมือน Third Place (สถานที่พักพิงระหว่างวัน) ของทุกเจเนอเรชั่นหลายคนมีร้านกาแฟเป็นที่ทำงาน นัดติววิชา นัดคุยงาน เจรจาธุรกิจ และเป็นสถานที่สตาร์ทวันใหม่ให้สดชื่นมีพลังซึ่งต้องยอมรับว่า ทุกวันนี้ร้านกาแฟในบ้านเรามีให้เลือกหลากดีไซน์ แถมยังมีของเล่นเก๋ๆ อย่างไซฟ่อนกาแฟ (Coffee Siphon) หรือกาแฟดริปให้ตื่นตาตื่นใจอีกต่างหาก นอกจากบรรยากาศในร้านกาแฟจะทำให้เราอยากฝังตัวอยู่ในร้านไปนานๆ รสชาติและความเข้มข้นของกาแฟก็มีส่วนสำคัญไม่แพ้กัน ซึ่งมาจากความแตกต่างของเมล็ดกาแฟแต่ละสายพันธุ์การคั่ว และเทคนิคของบาริสต้าการทำความรู้จักกับกาแฟ4 สายพันธุ์จากนี้ จะช่วยให้คุณเพลิดเพลินกับกาแฟได้ตรงกับไลฟ์สไตล์มากขึ้น

อราบิก้า (Arabica)

คนที่รักความกลมกล่อม กลิ่นหอม และรสชาตินุ่มละมุนของกาแฟ มักจะตกหลุมรักกาแฟสายพันธุ์นี้ ที่นิยมปลูกมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของโลกถึงร้อยละ 80 และเป็นกาแฟที่ได้รับความนิยมสูงสุดในร้านกาแฟสดทั่วโลก ขณะเดียวกันอราบิก้าก็ปลูกยากและต้องการการควบคุมด้านคุณภาพการปลูกมากเช่นกัน อราบิก้าให้ปริมาณคาเฟอีนไม่เข้มข้นมากอยู่ในระดับ 1.1-1.7 เปอร์เซ็นต์ ทั้งยังมีให้เลือกหลายพันธุ์ เช่น ทริปิก้า เบอร์บอน บลูเมาท์เท่นมอกกา (Mokka) คาทูร่าโคน่า และเคนท์ซึ่งต่างก็มีกลิ่นหอมและรสชาติหวานมันแตกต่างกันตามถิ่นกำเนิด อราบิก้าเป็นกาแฟที่รักอากาศเย็นสบายราว15-25 องศาฯ จึงเหมาะที่จะปลูกในที่ภูมิประเทศสูงกว่า1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล และแน่นอนว่าราคาของกาแฟก็แตกต่างตามคุณภาพของแต่ละสายพันธุ์อีกด้วย

โรบัสต้า (Robusta)

คอกาแฟเข้มข้นแบบลูกผู้ชายตัวจริงไม่ควรพลาดกาแฟโรบัสต้า เพราะมีปริมาณความเข้มข้นของคาเฟอีนถึง 2-4.5 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งบอดี้ (ความเข้มข้น) ยังให้รสชาติฝาดพร่ากว่าอราบิก้าด้วยความเข้มสูงกว่าเท่าตัวของโรบัสต้าจึงทำให้นิยมนำไปผลิตเป็นกาแฟสำเร็จรูป (Instant Coffee) และ3in1 วันไหนที่คุณต้องเดินทางไกลหรืออยากให้ร่างกายตื่นตัวตลอดวัน แค่เลือกกาแฟโรบัสต้าชงดื่มเองก็พร้อมลุยทุกเส้นทาง รวมถึงการนำไปผสมกับกาแฟสายพันธุ์อื่นที่เรียกว่า “กาแฟเบลนด์” (Blend Coffee) นั่นเอง โรบัสต้าออกจะดูแลง่าย ปลูกง่าย รักอากาศร้อนชื้นแบบภาคใต้ของบ้านเรา แข็งแรง ทนทานต่อโรคต่างๆ ได้ดี ให้ผลผลิตสูง และการดูแลรักษาก็ไม่ยากด้วยนะ

เอ็กเซลซ่า (Excelsa)

แม้จะมีรูปลักษณ์ภายนอกของเมล็ดและรสชาติใกล้เคียงกับโรบัสต้า แต่เอ็กเซลซ่ากลับไม่ได้รับความนิยมแพร่หลายเท่ากับโรบัสต้า แต่ถ้าคุณลองถามชาวแอฟริกันและบ้านเกิดของกาแฟ (กาแฟได้รับการค้นพบครั้งแรกในเยเมนและเอธิโอเปีย ส่วนเอ็กเซลซ่าเป็นที่รู้จักครั้งแรกในปี 1904) แล้วล่ะก็ พวกเขารักรสชาติเข้มข้นและความขมพร่าของเอ็กเซลซ่าอย่างมาก ถึงขนาดที่ดื่มกาแฟสายพันธุ์นี้ได้ตลอดวันทั้งยังปลูกง่าย ดูแลง่าย ทนแล้งและทนโรคได้ดี ให้ผลผลิตสูง ส่วนเมล็ดแก่ของเอ็กเซลซ่ายังให้รสชาติกลมกล่อมและหอมมันคล้ายกับกาแฟอราบิก้าอีกด้วย

ลิเบอริก้า (Liberica)

บ้านเกิดของลิเบอริก้าอยู่ที่ไลบีเรียและไอวอรีโคสต์ ส่วนรสชาติก็ใกล้เคียงกับอราบิก้าแต่มีรสเปรี้ยวอมหวานของผลเบอร์รี่มากกว่า แต่มีความทนทานต่อโรคได้ดีกว่า รักอากาศร้อนชื้นและน้ำชุ่มๆ นอกจากนี้ชาวไอวอรีโคสต์และมาดากัสก้ายังนิยมนำไปพัฒนาสายพันธุ์กับกาแฟสายพันธุ์อื่น ส่วนบาริสต้าเองก็นิยมนำไปเบลนด์เข้ากับกาแฟอื่นๆ เพื่อเพิ่มความเข้มข้นและเสริมรสให้มีเอกลักษณ์มากขึ้น แม้จะได้ชื่อว่าเป็นกาแฟที่มีคุณภาพต่ำกว่าสายพันธุ์อื่น แต่ลิเบอริก้ากำลังได้รับความนิยมแพร่หลายในประเทศแถบสแกนดิเนเวีย

นอกจากกาแฟ 4 สายพันธุ์นี้ที่เรานำมาเล่าให้คุณได้ทำความรู้จัก ปัจจุบันยังมีสายพันธุ์กาแฟมากมายบนโลก อีกทั้งได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ให้มีความหลากหลายมากขึ้น ที่เหลือขึ้นอยู่กับคุณว่าจะชื่นชอบรสชาติกาแฟแบบไหนแล้วล่ะ